แบบฝึกห้ดท้ายบทที่ 2
ตอนที่ 1 แบบปรนัย
1.ข้อใดกล่าวถึงความหมายของตาราง(Table)ได้ชัดเจนที่สุด
ตอบ ง. ออบเจ็กต์ที่เก็บข้อมูลในฐานข้อมูล
2.ข้อใดต่อไปนี้กล่าวผิด
ตอบ ง. Attachment เป็นชนิดข้อมูลสำหรับสร้างจุดเชื่อมโยงไปยังไฟล์
3.ฟิลด์(Field)หมายถึงอะไร
ตอบ ค. คอลัมน์
4.เรคคอร์ด(Record)หมายถึงอะไร
ตอบ ง. ข้อมูล
5.ชนิดข้อมูลแบบ(Text)สามารถเก็บข้อมูลได้กี่ตัวอักษร
ตอบ ค. 255
6.ถ้าต้องการกำหนดฟิลด์ในการเก็บข้อมูลจำนวนมากๆจะต้องเลือกชนิดข้อมูลแบบใด
ตอบ ก. Memo
7.มุมมองที่ใช้ในการสร้างตารางด้วยการออกแบบเองคือมุมมองใด
ตอบ ก. Design View
8.ชนิดความสัมพันธ์ของข้อมูลมีกี่แบบ
ตอบ ข. 3 แบบ
9.ข้อใดต่อไปนี้ ไม่สามารถ นำมาประกอบในการตั้งชื่อฟิลด์ข้อมูลได้
ตอบ ง. เครื่องหมายจุด(.)
10.ถ้าต้องการเรียงลำดับข้อมูลในตารางจากน้อยไปหามาก จะต้องใช้เครื่องมือใด
ตอบ ก. Ascending
ตอนที่ 2 ให้นักเรียนจับคู่ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1. ฌ Field ก. กำหนดรูปแบบในการป้อนข้อมูล
2. ง Record ข. เก็บข้อมูลประเภทรูปภาพ
3. จ Memo ค. เรียงลำดับข้อมูลจากน้อยไปหามาก
4. ข OLE object ง. ข้อมูลในแนวแถว
5. ซ Currency จ. เก็บข้อมูลประเภทข้อมูลที่มีความยาวมากๆ
6. ญ Attachment ฉ. กำหนดรูปแบบแสดงข้อมูล
7. ก Input Mask ช. เรียงลำดับข้อมูลจากมากไปหาน้อย
8. ฉ Format ซ. เก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขทางการเงิน
9. ช Descending ฌ. ข้อมูลในแถวคอลัมน์
10. ค Ascending ญ. เก็บเอกสารและแฟ้มไบนารี่ทุกชนิดในฐานข้อมูล
ตอนที่ 3 แบบอัตนัย
1.จงอธิบายประโยชน์ที่ได้รับจากการสร้างตาราง
คือ การจัดการข้อมูลมีประสิทธิภาพสูง ผู้ใช้สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว มีการจัดเป็นระเบียบ
2.จงบอกถึงคุณสมบัติในการเลือกฟิลด์ข้อมูลที่จะนำมาเป็นคีย์หลัก(Primary Key)
คือ ข้อมูลของแอททริบิวท์มีความเป็นหนึ่งเดียว(Uniqueness) ทุกแถวของตารางจะต้องไม่มีข้อมูลของแอททริบิวท์ที่เป็นคีย์หลักซ้ำกันเลย
ต้องประกอบด้วยจำนวนแอททริบิวท์ที่น้อยที่สุด()ที่จะสามารถใช้เจาะจงหรืออ้างอิงถึงแถวใดแถวหนึ่งในรีเลชันได้
3.อธิบายความแตกต่างในการสร้างตารางด้วยมุมมองการออกแบบ(Table Design)และมุมมองแผ่นตารางข้อมูล(Datasheet View)
คือ การสร้างตารางด้วยมุมมองการออกแบบ เป็นการกำหนดฟิลด์ข้อมูลของตาราง ชนิดข้อมูล และคุณสมบัติของฟิลด์แต่ละฟิลด์ แต่การสร้างตารางแผ่นตารางข้อมูลจะเป็นการป้อนข้อมูลที่จะเก็บไว้ในตาราง
4.จงบอกขั้นตอนในการสร้างตารางด้วยมุมมองการออกแบบว่ามีขั้นตอนอย่างไร
1.คลิกเข้าไปในโปแกรม Microsoft Access 2007 แล้วเลือกที่ฐานข้อมูลเปล่า กำหนดชื่อฐานข้อมูล กำหนดไฟล์ที่ต้องการจะเก็บข้อมูล แล้วกด สร้าง
2.คลิกเข้าไปที่เมนูมุมมองแล้ว เลือก เมนูการสร้างตารางด้วยมุมมองการออกแบบ
3.กำหนดชื่อของตาราง
4.กำหนดชื่อของเขตของข้อมูล
5.กำหนดชนิดของข้อมูล
6.กำหนดชื่อคำอธิบายแล้วกำหนดขนาดของขอบเขตข้อมูล
5.ในการสร้างตารางด้วยแม่แบบ(Template)มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
ข้อดี ข้อเสีย
ทำงานได้สะดวกและรวดเร็ว จะไม่ตรงต่อความต้องการทั้งหมดแต่เรา สามารถเปลี่ยนเองได้
วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วิชา ระบบการฐานข้อมูล
สรุปเนื้อหาหน่วยที่ 1
ฐานข้อมูล(Database) คือข้อมูลจำนวนมากที่มีการจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบในลักษณะของตาราง และข้อมูลแต่ละตารางที่มีอยู่นั้นต่างมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งในการสร้างตารางเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก หรือเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องนำไปใช้งานต่อไป
ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System) คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่ออำนวยความสะดวกในการบันทกข้อมูลลงในฐานข้อมูล
ระบบฐานข้อมูล คือ ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน มีรูปแบบการจัดเก็บที่เป็นระเบียบแบบแผน และจัดเก็บไว้ในที่เดียวกัน เช่น ข้อมูลนักเรียนนักศึกษา ข้อมูลสินค้าคงคลัง ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น เดิมจัดเก็บข้อมูลในแฟ้มข้อมูล เมื่อมีการจัดเก็บเป็นระบบฐานข้อมูล จะนำข้อมูลมาเก็บไว้ในฐานเดียวกัน ทำให้หน่วยงานสามารถใช้ข้อมูลเดียวกัน สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ เมื่อมีการปรับปรุงข้อมูล สามารถทำได้โดยผ่านตัวกลาง เรียกว่า ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS)
ประโยชน์ในการใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล
1.ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล
2.ทำให้เกิดความสอดคล้องของข้อมูล
3.ควบคุมความถูกต้องของข้อมูล
4.สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
5.มีความปลอดภัย
6.ขจัดความขัดแย้งในการใช้ข้อมูลร่วมกัน
7.ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย
ข้อเสียในการใช้ฐานข้อมูล
1. เสียค่าใช้จ่ายสูง
2. เกิดการสูญเสียข้อมูลได้
หลักการออกแบบฐานข้อมูล
หลักการออกแบบฐานข้อมูล
ก่อนเริ่มสร้างฐานข้อมูล จำเป็นต้องทำการออกแบบฐานข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่จะนำมาเก็บในฐานข้อมูลประกอบไปด้วยอะไรบ้าง มีการจัดเก็บในรูปแบบใด มีขั้นตอนการออกแบบฐานข้อมูล ดังนี้
1.กำหนดวัตถุประสงค์ในการสร้างระบบฐานข้อมูล ว่าต้องการใช้จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องใด
2.ต้องการใช้เพื่อทำอะไร และต้องการอะไรบ้างจากระบบนี้ เช่นรายงานสรุปต่าง ๆ ต้องระบุให้ชัดเจน3.สอบถามความต้องการของผู้ใช้ว่าจะต้องป้อนข้อมูลใดบ้างเข้าสู่ระบบ และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจากระบบว่าต้องการอะไรบ้าง
4.วิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด
5.จัดกลุ่มข้อมูลที่ต้องการเก็บในระบบฐานข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของตาราง (Table) โดยพิจารณาจากความสัมพันธ์ว่าเป็นเรื่อง
6.วิเคราะห์ข้อมูลแต่ละตาราง เพื่อกำหนดเขตข้อมูลหรือฟิลด์ข้อมูลให้ครบถ้วน
7.พิจารณาเขตข้อมูลหลักหรือฟิลด์หลัก (Primary Key) ของแต่ละตาราง
8.วิเคราะห์โครงสร้างข้อมูลที่ได้ตามหลักการ Normalization เพื่อให้ได้ตารางข้อมูลที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนและถูกต้อง
9.กำหนดชนิดข้อมูล (Data Type) ที่ต้องการจัดเก็บว่าอยู่ในรูปแบบใด
10.กำหนดความสัมพันธ์ของข้อมูลในฐานข้อมูล (Relationship)
11.ออกแบบหน้าจอการใช้งาน
กฎการNormalization
เป็นกฎการออกแบบตาราง เพื่อลดความซ้ำซ้อน แก้ไขตารางได้ง่าย และถ้าเปลี่ยนแปลง ข้อมูล จะมีผลกระทบต่อข้อมูลอื่นน้อยที่สุด ใช้กฎ Normalization เพียง 3 ข้อ ก็เพียงพอในการออกแบบตารางโดยทั่วไป
การสร้าง Table
เมื่อคุณจัดการ Normalization เรียบร้อยแล้ว ก็นำตารางที่ได้จากการ Normalization มาทำ Table ในระดับโครงสร้าง-ฟิลด์ โดยกำหนดลักษณะข้อมูลแต่ละฟิลด์ และคุณสมบัติของฟิลด์
2. ทำการวัดและประเมินผลผลการผ่านจุดประสงค์
ตอนที่ 1 แบบปรนัย
1. ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไร
ตอบ ข. ตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูล
2. หลังจากที่สร้างฐานข้อมูลแล้ว จะต้องสร้างออบเจ็กต์ใดเป็นอันดับแรก
ตอบ ก. Table
3. ออบเจ็กต์ใดที่ทำหน้าที่การเก็บข้อมูลทั้งหมดลงฐานข้อมูล
ตอบ ค. Form
4. ออบเจ็กต์ Query มีหน้าที่ทำอะไร
ตอบ ค. สร้างแบบสอบถามข้อมูล
5. ข้อใดต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของออบเจ็กต์ Form
ตอบ ข. เก็บข้อมูลลงฐานข้อมูล
6. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช กฎของการ Normalization
ตอบ ข. จะต้องมีความสัมพันธ์แบบเชิงกลุ่ม (Many-to-Many)
7. ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ที่ได้รับของระบบฐานข้อมูล
ตอบ ค. ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย
8. ขั้นตอนใดต่อไปนี้เป็นขั้นตอนแรกในการออบแบบฐานข้อมูล
ตอบ ก. กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
9. ส่วนประกอบต่อไปนี้เพิ่มเข้ามาใหม่ใน Access 2007 ยกเว้น ข้อใด
ตอบ ง. Ribbon
10. ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวผิด
ตอบ ก. เมื่อบันทึกฐานข้อมูลใน Access 2007 จะมีนามสกุล .accdb ตอนที่ 2 แบบจับคู่ ค าชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่คำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1. ช. DBMS ก. แถบในการแสดงออบเจ็กต์ที่สร้างขึ้น
2. จ. Normalization ข. แบบสอบถามข้อมูล
3. ซ. Office Button ค. ส่วนของพื้นที่การทำงานของออบเจ็กต่าง ๆ
4. ญ. Quick Access Toolbar ง. ชุดคำสั่งกระทำการต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน
5. ฌ. Ribbon จ. กฎที่ใช้ในการออบแบบตาราง
6. ก. Navigation Pane ฉ. โปรแกรมย่อยที่เขียนขึ้นภาษา VBA
7. ค. Document Window ช. ระบบจัดการฐานข้อมูล
8. ข. Query ซ. ปุ่มที่รวบรวมชุดคำสั่งในการจัดการฐานข้อมูล
9. ง. Macro ฌ. ส่วนการทำงานใหม่ที่เข้ามาแทนที่แถบเมนูและแถบเครื่องมือ
10. ฉ. Module ญ. แถบเครื่องมือที่รวบรวมปุ่มเครื่องมือที่ใช้งานบ่อยๆ เอาไว้
ตอนที่ 3 แบบอัตนัย
คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. จงอธิบายถึงความหมายของฐานข้อมูล
ฐานข้อมูล (Database) คือข้อมูลจำวนมากที่มีการจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบในลักษณะของตาราง และข้อมูลแต่ละตารางที่มีอยู่นั้นต่างมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งในการสร้างตารางเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นสิ่งที่ต้องทำป็นอันดับแรก หรือเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องนำปใช้งานต่อไป
2. ระบบฐานข้อมูลมีประโยชน์อย่างไร
1. ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล เมื่อมีข้อมูลของหน่วยงานซึ่งจัดเก็บไว้หลายที่ อาจมีข้อมูลใน
ส่วนที่เหมือนกันหลายส่วน เช่น ฝ่ายบัญชี เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน และฝ่ายบุคคล เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูล จะทำห้ไม่เก็บข้อมูลซ้ำซ้อนกัน ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ต้องการได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทำให้เกิดความรวดเร็วในการค้นหาและจัดเก็บข้อมูลอีกด้วย
2. ทำให้เกิดความสอดคล้องของข้อมูล ถ้ามีการแก้ชื่อ ถ้ามีการแก้ชื่อ ที่อยู่ ที่ฝ่ายบุคคล ชื่อและ ที่อยู่ที่ฝ่ายบัญชีก็จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วย เนื่องจากฝ่ายบัญชีจะดึงข้อมูลชื่อและที่อยู่จากฝ่ายบุคคลมาใช้ ดังนั้นเมื่อมีการแก้ไขข้อมูลในที่ใดที่หนึ่ง ข้อมูลอีกที่หนึ่งก็จะถูกเปลี่ยนไปด้วย
3. ควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ในการนำ เข้าข้อมูล และระบบจัดการฐานข้อมูล จะคอยควบคุมให้มีการน าเข้าข้อมูลเป็นไปตามกฎเกณฑ์เพื่อให้มีความถูกต้อง
4. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ การเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน จะสามารถกำหนดรูป
แบบที่แน่นอนได้ และแต่ละฝ่ายสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้เพราะเป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากระบบการจัดการฐานข้อมูลสามารถจัดให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้ข้อมูลในแฟ้มที่มีข้อมูลเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงิน สามารถที่จะใช้ข้อมูลจากแฟ้มประวัติพนักงานในระบบฐานข้อมูลได้พร้อมกัน
5. มีความปลอดภัย การที่ข้อมูลมารวมอยู่ในที่เดียวกัน สามารถวางมาตรฐานในการแก้ไขและ ป้องกันได้ดีกว่า จึงไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลไปสู่ผู้ไม่ควรรู้ และสามารถก าหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะท าการตรวจสอบสิทธิ์ในการท างานกับข้อมูล เช่น การเรียกดูข้อมูล การลบข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล และการเพิ่มข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล เป็นต้น
6. ขจัดความขัดแย้งในการใช้ข้อมูลร่วมกัน ก่อนที่จะมีการจัดเก็บข้อมูล ต้องมีการตกลง
รูปแบบการเก็บอย่างเป็นเอกฉันท์เสียก่อน ท าให้ไม่เสียเวลาในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
7. ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแลปรับปรุงอย่าง
ต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ
3. ใน Microsoft Access 2007 ประกอบไปด้วยออบเจ็กต์อะไรบ้าง และมีหน้าที่อย่างไร
1.Table ใช้ในการเก็บข้อมูลทั้งหมด
2.Queries ช่วยค้นหาหรือสร้างแบบสอบถามข้อมูล
3.Froms แบบฟอร์มในการทำงาน สำหรับจัดการกับข้อมูลแทนการจัดการในตาราง
4.Report ใช้ในการสร้างรายงาน
5.Macros ชุดคำสั่งที่นำมาร่วมกันตามขั้นตอนในการทำงานเพื่อให้การทำงานเป็นอัตโนมัติ
6.Modules ช่วยให้ทำงานกับข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้นได้
4. จงอธิบายหลักการออกแบบฐานข้อมูลมาพอใจ
ก่อนที่เราจะเริ่มสร้างฐานข้อมูลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการออกแบบฐานข้อมูลเสียก่อน ว่าข้อมูลที่จะนำมาเก็บในฐานข้อมูลประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และมีการจัดเก็บในรูปแบบใด แล้วค่อยเริ่มต้นสร้างฐานข้อมูล
5. จงยกตัวอย่างระบบงานที่ควรนำระบบฐานข้อมูลเข้ามาใช้ พร้อมทั้งอธิบายเหตุผล
งานทะเบียน เพราะว่าเป็นงานที่เกี่ยวกับประวัติของพนักงานหรือนักเรียนทั้งหมด ซึ่งมีข้อมูลต่างๆหลายอย่างมาเก็บข้อมูลไว้ได้ง่าย
ตอนที่ 1 แบบปรนัย
1. ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไร
ตอบ ข. ตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูล
2. หลังจากที่สร้างฐานข้อมูลแล้ว จะต้องสร้างออบเจ็กต์ใดเป็นอันดับแรก
ตอบ ก. Table
3. ออบเจ็กต์ใดที่ทำหน้าที่การเก็บข้อมูลทั้งหมดลงฐานข้อมูล
ตอบ ค. Form
4. ออบเจ็กต์ Query มีหน้าที่ทำอะไร
ตอบ ค. สร้างแบบสอบถามข้อมูล
5. ข้อใดต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของออบเจ็กต์ Form
ตอบ ข. เก็บข้อมูลลงฐานข้อมูล
6. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช กฎของการ Normalization
ตอบ ข. จะต้องมีความสัมพันธ์แบบเชิงกลุ่ม (Many-to-Many)
7. ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ที่ได้รับของระบบฐานข้อมูล
ตอบ ค. ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย
8. ขั้นตอนใดต่อไปนี้เป็นขั้นตอนแรกในการออบแบบฐานข้อมูล
ตอบ ก. กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
9. ส่วนประกอบต่อไปนี้เพิ่มเข้ามาใหม่ใน Access 2007 ยกเว้น ข้อใด
ตอบ ง. Ribbon
10. ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวผิด
ตอบ ก. เมื่อบันทึกฐานข้อมูลใน Access 2007 จะมีนามสกุล .accdb ตอนที่ 2 แบบจับคู่ ค าชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่คำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1. ช. DBMS ก. แถบในการแสดงออบเจ็กต์ที่สร้างขึ้น
2. จ. Normalization ข. แบบสอบถามข้อมูล
3. ซ. Office Button ค. ส่วนของพื้นที่การทำงานของออบเจ็กต่าง ๆ
4. ญ. Quick Access Toolbar ง. ชุดคำสั่งกระทำการต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน
5. ฌ. Ribbon จ. กฎที่ใช้ในการออบแบบตาราง
6. ก. Navigation Pane ฉ. โปรแกรมย่อยที่เขียนขึ้นภาษา VBA
7. ค. Document Window ช. ระบบจัดการฐานข้อมูล
8. ข. Query ซ. ปุ่มที่รวบรวมชุดคำสั่งในการจัดการฐานข้อมูล
9. ง. Macro ฌ. ส่วนการทำงานใหม่ที่เข้ามาแทนที่แถบเมนูและแถบเครื่องมือ
10. ฉ. Module ญ. แถบเครื่องมือที่รวบรวมปุ่มเครื่องมือที่ใช้งานบ่อยๆ เอาไว้
ตอนที่ 3 แบบอัตนัย
คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้
1. จงอธิบายถึงความหมายของฐานข้อมูล
ฐานข้อมูล (Database) คือข้อมูลจำวนมากที่มีการจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบในลักษณะของตาราง และข้อมูลแต่ละตารางที่มีอยู่นั้นต่างมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งในการสร้างตารางเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นสิ่งที่ต้องทำป็นอันดับแรก หรือเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องนำปใช้งานต่อไป
2. ระบบฐานข้อมูลมีประโยชน์อย่างไร
1. ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล เมื่อมีข้อมูลของหน่วยงานซึ่งจัดเก็บไว้หลายที่ อาจมีข้อมูลใน
ส่วนที่เหมือนกันหลายส่วน เช่น ฝ่ายบัญชี เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน และฝ่ายบุคคล เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูล จะทำห้ไม่เก็บข้อมูลซ้ำซ้อนกัน ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ต้องการได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทำให้เกิดความรวดเร็วในการค้นหาและจัดเก็บข้อมูลอีกด้วย
2. ทำให้เกิดความสอดคล้องของข้อมูล ถ้ามีการแก้ชื่อ ถ้ามีการแก้ชื่อ ที่อยู่ ที่ฝ่ายบุคคล ชื่อและ ที่อยู่ที่ฝ่ายบัญชีก็จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วย เนื่องจากฝ่ายบัญชีจะดึงข้อมูลชื่อและที่อยู่จากฝ่ายบุคคลมาใช้ ดังนั้นเมื่อมีการแก้ไขข้อมูลในที่ใดที่หนึ่ง ข้อมูลอีกที่หนึ่งก็จะถูกเปลี่ยนไปด้วย
3. ควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ในการนำ เข้าข้อมูล และระบบจัดการฐานข้อมูล จะคอยควบคุมให้มีการน าเข้าข้อมูลเป็นไปตามกฎเกณฑ์เพื่อให้มีความถูกต้อง
4. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ การเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน จะสามารถกำหนดรูป
แบบที่แน่นอนได้ และแต่ละฝ่ายสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้เพราะเป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากระบบการจัดการฐานข้อมูลสามารถจัดให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้ข้อมูลในแฟ้มที่มีข้อมูลเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงิน สามารถที่จะใช้ข้อมูลจากแฟ้มประวัติพนักงานในระบบฐานข้อมูลได้พร้อมกัน
5. มีความปลอดภัย การที่ข้อมูลมารวมอยู่ในที่เดียวกัน สามารถวางมาตรฐานในการแก้ไขและ ป้องกันได้ดีกว่า จึงไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลไปสู่ผู้ไม่ควรรู้ และสามารถก าหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะท าการตรวจสอบสิทธิ์ในการท างานกับข้อมูล เช่น การเรียกดูข้อมูล การลบข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล และการเพิ่มข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล เป็นต้น
6. ขจัดความขัดแย้งในการใช้ข้อมูลร่วมกัน ก่อนที่จะมีการจัดเก็บข้อมูล ต้องมีการตกลง
รูปแบบการเก็บอย่างเป็นเอกฉันท์เสียก่อน ท าให้ไม่เสียเวลาในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
7. ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแลปรับปรุงอย่าง
ต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ
3. ใน Microsoft Access 2007 ประกอบไปด้วยออบเจ็กต์อะไรบ้าง และมีหน้าที่อย่างไร
1.Table ใช้ในการเก็บข้อมูลทั้งหมด
2.Queries ช่วยค้นหาหรือสร้างแบบสอบถามข้อมูล
3.Froms แบบฟอร์มในการทำงาน สำหรับจัดการกับข้อมูลแทนการจัดการในตาราง
4.Report ใช้ในการสร้างรายงาน
5.Macros ชุดคำสั่งที่นำมาร่วมกันตามขั้นตอนในการทำงานเพื่อให้การทำงานเป็นอัตโนมัติ
6.Modules ช่วยให้ทำงานกับข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้นได้
4. จงอธิบายหลักการออกแบบฐานข้อมูลมาพอใจ
ก่อนที่เราจะเริ่มสร้างฐานข้อมูลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการออกแบบฐานข้อมูลเสียก่อน ว่าข้อมูลที่จะนำมาเก็บในฐานข้อมูลประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และมีการจัดเก็บในรูปแบบใด แล้วค่อยเริ่มต้นสร้างฐานข้อมูล
5. จงยกตัวอย่างระบบงานที่ควรนำระบบฐานข้อมูลเข้ามาใช้ พร้อมทั้งอธิบายเหตุผล
งานทะเบียน เพราะว่าเป็นงานที่เกี่ยวกับประวัติของพนักงานหรือนักเรียนทั้งหมด ซึ่งมีข้อมูลต่างๆหลายอย่างมาเก็บข้อมูลไว้ได้ง่าย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)